ช่วงบ่ายๆ แม่ปันปรายชอบทำอะไรที่ทานง่ายๆ วันนี้เลยจะชวนกินเมี่ยงสดค่ะ.. ใครที่ชอบรับประทานผักสดต้องชอบแน่ๆ รายการที่ต้องเตรียมก็ไม่ยากด้วยนะคะ
ใบเมี่ยงหาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เกตทั่วไปนะคะ ส่วนหมูย่างแนะนำวิธีทำง่ายๆ จากเอนทรี่ เรื่องหมูมะนาวค่ะ แต่ถ้าใส่แต่หมูยอก็ไม่ผิดกติกา บางร้านอาจจะใส่ ไข่เจียวซอยด้วย แต่แม่ปันปรายไม่ชอบค่ะ 
เริ่มทำกันดีกว่าค่ะ เริ่มแรกให้ใช้ผ้าชุปน้ำเช็ดใบเมี่ยง พอหมาดๆ แล้วค่อยจัดเรียง ผักกาดหอม ผักชีฝรั่ง โหระพา สะระแหน่ ผักแพรว ลงไป เมื่อจัดผักเรียบร้อย ก็ให้วาง หมูยอ หมูย่าง และแครอท ตามแนวยาวค่ะ เมื่อจัดเสร็จแล้ว โรยด้วยข้าวคั่ว เกลือ และพริกไทยค่ะ.. พร้อมแล้วก็ห่อได้เลยค่ะ.. (เมนูนี้ง่ายดีนะคะ)
หมายเหตุสักหน่อย ถ้าผักไม่ครบ หรือชอบ ไม่ชอบผัก อะไร ก็อย่าคิดมากค่ะ ใส่อย่างที่ชอบก็พอค่ะ 
วิธีทำน้ำจิ้ม (อย่างง่าย)
ให้ใช้น้ำจิ้มไก่ค่ะ นำมาผสมกับ น้ำสุกนิดหน่อย และน้ำตาลทรายอีกประมาณ 2 - 4 ช้อนโต๊ะ (แล้วแต่ชอบค่ะ) แม่ปันปรายจะซอยแครอท และพริกสดลงไปด้วยนิดหน่อย แล้วนำเข้าเตาไมโครเวฟค่ะ ใช้เวลาประมาณ 1 - 2 นาที ชิมรสให้เปรี้ยวนำหวานนะคะ อาจจะตัดด้วยเกลือนิดหน่อยก็ได้้ค่ะ
และถ้า่เสร็จแล้วก็ได้ ตามรูปนี้ค่ะ
ในช่วงฤดูฝนนี้
ใบชะพลูกำลังแตกยอดสวยงาม
เหมาะสำหรับนำมาปรุงจานอาหารอร่อย
มาทำเมี่ยงคำกินเล่นเป็นอาหารว่าง
ผมขอแนะนำเรื่องราวดีๆ…
ประโยชน์ของชะพลู และสูตรของเมี่ยงคำมาฝากกันนะครับ
ข้อมูลที่ 1
ชะพลู
ชื่อวิทยาศาสตร์ Piper rostrarum Roxb.
ชื่อวงศ์ Piperaceae
ชื่ออื่นๆ นมวา ผักปูนา ผักพลูน พลูลิง เย้เท้ย พลูนก
ผักกู้นก ผักอีเลิด ผักนางเลิด ผักอีไร
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ชะพลู มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นไม้ล้มลุก
ใบเดี่ยว รูปคล้ายหัวใจ เติบโตได้ดีในที่ลุ่ม ริมห้วยหนอง
ที่มีน้ำขัง
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
ต้านการเกาะกลุ่มของเม็ดเลือด ต้านเชื้อแบคทีเรีย
ลดน้ำตาลในเลือด ลดการบีบตัวลำไส้เล็ก
เพิ่มการบีบตัวของลำไส้เล็กส่วนกลาง
ยับยั้งการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
สรรพคุณทางยา
ชะพลู ใบอ่อน รสเผ็ดร้อน ขับเสมหะ
มีวิตามินเอสูง ต้านอนุมูลอิสระ ขับลม ช่วยเจริญอาหาร
คุณค่าทางโภชนาการ
ชะพลูเป็นผักสมุนไพรคู่ครัวไทยมาช้านาน
นำชะพลูมาปรุงอาหาร เช่น แกงคั่ว แกงเผ็ด
ซอยผสมในข้าวยำปักษ์ใต้ ใช้ใบเป็นส่วนสำคัญ
ในการทำเมี่ยงคำ
ใบชะพลู 100 กรัม
ให้พลังงาน 119 กิโลแคลอรี โปรตีน 5.4 กรัม
ไขมัน 2.5 กรัม คาร์โบไฮเดรต 18.8 กรัม
แคลเซียม 601 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 30 กรัม
เหล็ก 7.6 มิลลิกรัม วิตามินบี1 0.13 มิลลิกรัม
วิตามินบี2 0.11 มิลลิกรัม วิตามินบี6 3.4 มิลลิกรัม
วิตามินซี 10 มิลลิกรัม
อีกบทความหนึ่ง
ชะพลู
ชะพลู มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Piper sarmentosum Roxb.
ถิ่นกำเนิดของชะพลูอยู่ที่หมู่เกาะมาเลย์และหมู่เกาะชวา
ชะพลูเป็นไม้ล้มลุก แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือไม้เถา และไม้เลื้อย
ใบเป็นใบเดี่ยวรูปหัวใจ หน้าใบสีเขียวเข้มลื่นเป็นมัน หลังใบสากมีสีเขียวหม่น
ส่วนดอกจะเล็กเป็นรูปทรงกระบอกสีขาว ใบชะพลูมีรสซ่า
ยอดอ่อนและใบอ่อนกินได้ โดยชะพลูสามารถให้ประโยชน์ได้หลายด้านด้วยกัน
คือ มีสรรพคุณทางด้านยารักษาโรคและมีประโยชน์ทางด้านอาหารอีกด้วย
ซึ่งใบของชะพลูผู้คนนิยมกินกันสดๆ
กับอาหารรสจัด เช่น ลาบ ยำ น้ำพริก หรือใส่ในข้าวยำ
และเป็นอาหารพื้นบ้านหลายชนิด เช่น แกงแค แกงอ่อม แกงขนุนอ่อน
แกงหัวปลี แกงเผ็ดใบชะพลูกับหอยแครง แกงคั่ว
ห่อหมกและนิยมมากินกับเมี่ยงคำ หรือเมี่ยงปลา
ชะพลูปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศ
ใบชะพลูมีเบต้าแคโรทีนสูงมาก เมื่อกินเข้าไปร่างกายจะแปรรูปเบต้าแคโรทีน
ให้กลายเป็นวิตามินเอช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งที่กระเพาะอาหาร
ลำไส้ ลำคอ ปอด กระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้ชะพลูยังบำรุงธาตุ แก้จุกเสียด
ชะพลูมีสารออกซาเลทค่อนข้างสูง
สารออกซาเลทนี้ถ้าสะสมในร่างกายมากๆ
จะทำให้เป็นนิ่วในไต จึงควรกินร่วมกับอาหารประเภทโปรตีนสูง
เพื่อป้องกันการเกิดนิ่ว หรือดื่มน้ำมากๆ
เพื่อช่วยระบายสารออกซาเลทออกจากร่างกาย
ชื่ออื่นๆของชะพลู คือ ผักแค ผักปูนก พลูนก พลูลิง (ภาคเหนือ)
ผักนมวา (ภาคใต้) ผักอีเลิด ผักอีเล็ก ผักปูลม (ภาคอีสาน)
ระพีพรรณ ใจภักดี,ผักใบ,มีนาคม 2544,น.47
เมี่ยงคำ
เมี่ยงคำเป็นอาหารที่คนภาคกลางนิยมรับประทานเป็นอาหารว่าง
ในช่วงฤดูฝน เนื่องจากเป็นช่วงที่ต้นชะพลูออกใบ
ยอดอ่อนมากที่สุด และรสชาติดี
เมี่ยงคำสามารถรับประทานเป็นอาหารว่างได้ตลอดทั้งปี
แล้วแต่ว่าจะมุ่งรับประทานเพื่อความอร่อย
หรือจะรับประทานเพื่อการดูแลสุขภาพ (ปรับสมดุลธาตุในร่างกาย)
วันนี้พ่อครัวหัวฟูจึงขอนำเสนอเมนูเด็ดประจำครัว
ของ บริษัท เดอะ ทรี เวิลด์ส ครีเอเตอร์ จำกัด และประโยชน์ต่างๆ
ของเมี่ยงคำกันนะครับ
เมี่ยงคำที่เรารับประทานกันนั้นมีประโยชน์มากมายเพียงใด
เครื่องปรุงต่างๆ
เครื่องเมี่ยง :
มะพร้าวหั่นชิ้นเล็กๆ คั่ว 1 ถ้วย (300 กรัม)
กุ้งแห้งตัวเล็ก (ชนิดจืด) 1 ถ้วย (300 กรัม)
ถั่วลิสงคั่ว 1 ถ้วย (300 กรัม)
หอมแดงหั่นสี่เหลี่ยมเล็กๆ ½ ถ้วย (50 กรัม)
ขิงหั่นสี่เหลี่ยมเล็กๆ ½ ถ้วย (50 กรัม)
มะนาวหั่นทั้งเปลือกสี่เหลี่ยมเล็กๆ ½ ถ้วย (60 กรัม)
พริกขี้หนูหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ (กรณีคนชอบเผ็ด) 25 เม็ด (30 กรัม)
ใบชะพลู, ใบทองหลาง ชนิดละ 100 กรัม
ส่วนผสมน้ำเมี่ยง :
กุ้งแห้งโขลกละเอียด ½ ถ้วย (100 กรัม)
มะพร้าวขูดคั่วให้เหลือง ½ ถ้วย (300 กรัม)
ข่าหั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม)
ขิงหั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม)
ตะไคร้หั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม)
หอมแดงซอย ¼ ถ้วย (25 กรัม)
น้ำตาลปีบ 1 ถ้วย (240 กรัม)
กะปิเผา 2 ช้อนชา (15 กรัม)
น้ำปลา 1 ถ้วย (60 กรัม)
วิธีทำ :
โขลกข่า ตะไคร้ หอมแดง ให้ละเอียด ใส่กะปิ
โขลกให้เข้ากัน ใส่น้ำปลา น้ำตาลลงในหม้อตั้งไฟกลางๆ
ใส่เครื่องที่โขลกคนให้เข้ากัน เคี่ยวพอเหนียว ยกลงใส่กุ้งแห้ง
มะพร้าวคั่ว ยกขึ้นตั้งไฟเคี่ยวให้เหนียว ยกลง
วิธีการจัดรับประทาน :
ให้จัดใบชะพลูหรือใบทองหลางใส่จานวางเครื่องปรุงอย่างละน้อย
ลงบนใบชะพลู หรือใบทองหลางที่จัดเรียงไว้
ตักน้ำเมี่ยงหยอดห่อเป็นคำๆ รับประทาน
สรรพคุณทางยา :
มะพร้าว รสมันหวาน บำรุงกำลัง บำรุงเส้นเอ็น ใช้รักษาโรคกระดูก
ถั่วลิสง รสมัน บำรุงเส้นเอ็น บำรุงธาตุดิน
หอมแดง รสเผ็ดร้อน แก้ไข้เพื่อเสมหะ บำรุงธาตุ แก้ไข้หวัด
ขิง รสหวาน เผ็ดร้อน แก้จุดเสียด แก้เสมหะ บำรุงธาตุ
แก้คลื่นเหียนอาเจียน
มะนาว เปลือกผล รสขม ช่วยขับลม น้ำมะนาวรสเปรี้ยว
ขับเสมหะ แก้ไอ แก้เลือดออกตาม
ไรฟัน ฟอกโลหิต
พริกขี้หนู รสเผ็ดร้อน ช่วยเจริญอาหาร ขับลม ช่วยย่อย
ใบชะพลู รสเผ็ดเล็กน้อย แก้ธาตุพิการ ขับลม
ใบทองหลาง ขับพยาธิไส้เดือน แก้ตาแดง ตาแฉะ ดับพิษ
ข่า รสเผ็ดปร่าและร้อน ช่วยขับลม ขับพิษโลหิตร้ายในมดลูก
ขับลมในลำไส้
ตะไคร้ แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหาร
และขับเหงื่อ
ประโยชน์ทางอาหาร :
เมี่ยงคำเป็นอาหารช่วยบำรุงธาตุ ปรับธาตุชั้นหนึ่ง
ในเครื่องเมียงคำที่ประกอบด้วยใบชะพลู มะนาว บำรุงธาตุน้ำ
พริก หอม บำรุงธาตุลม
ขิงและเปลือกมะนาว บำรุงธาตุไฟ
มะพร้าว ถั่วลิสง น้ำตาล กุ้งแห้ง บำรุงธาตุดิน
เมื่อทำเมี่ยงคำเป็นอาหารว่าง ผู้รับประทานสามารถปรุงตามสัดส่วน
ที่สอดคล้องกับธาตุเจ้าเรือนของตนได้ หรือปรุงสัดส่วน
ตามอาการที่ไม่สบายได้อย่างเหมาะสม
คุณค่าทางโภชนาการ :
เมี่ยงคำ 1 ชุด ให้พลังงานต่อร่างกายประมาณ 659 กิโลแคลอรี
ซึ่งประกอบด้วย
โปรตีน 114 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 370.7 กรัม
กาก 9.6 กรัม
ใยอาหาร 13.4 กรัม
เถ้า 6.4 กรัม
แคลเซียม 1,032 มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส 1,679.1 มิลลิกรัม
เหล็ก 51.1 มิลลิกรัม
วิตามินเอ 4973.7 IU
วิตามินบี 1 140.2 มิลลิกรัม
วิตามินบี 2 1.7 มิลลิกรัม
ไนอาซิน 35.2 มิลลิกรัม
วิตามินซี 186.4 มิลลิกรัม